หากเราเลือกทำงานใดสักงานหนึ่ง เราควรจะมั่นใจว่างานนั้นเป็นงานที่เหมาะสมที่สุดสำหรับเราจริงๆ ไม่อย่างนั้นชีวิตของเราคงไม่มีความสุขจนกว่าจะถึงบั้นปลายชีวิต เพราะทุกอาชีพจะอยู่กับเราไปอีกหลายสิบปี บางคนอาจไม่คิดอะไรมากเพราะมีทางเลือกในการหางานใหม่ๆ ให้กับตัวเองได้อยู่เสมอ แต่สำหรับบางคนมองว่าการหางานใหม่บ่อยๆ เป็นเรื่องที่ไม่ควรทำ เพราะคนที่หางานใหม่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็มักจะต้องแบกรับความเสี่ยงต่างๆ เนื่องจากเราไม่มีทางรู้เลยว่าปลายทางของงานใหม่เราจะเป็นอย่างไร ระหว่างดีกว่าเดิมหรือแย่กว่าเดิม

          ดังนั้น เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่เราอาจพบเจอกับประสบการณ์แย่ๆ ในวัยทำงาน การค้นหาตัวเองก่อนที่จะหางานจึงเป็นสิ่งที่ควรทำอย่างยิ่ง เพราะหากเราเข้าใจตัวเองเป็นอย่างดีแล้ว การทำงานอย่างมีความสุขนั้นก็จะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป 

แนวทางในการค้นหาตัวเองเพื่อหางานที่ใช่ให้กับชีวิต

          เราสามารถค้นหาตัวเองได้จากแนวทางง่ายๆ เพื่อใช้มันเป็นเครื่องมือในการตัดสินใจหางานที่เหมาะกับตัวเราที่สุดและอยู่กับงานนั้นไปตลอดชีวิต  ด้วยวิธีการดังต่อไปนี้

1.สังเกตว่าตัวเองชอบทำอะไรหรือสามารถทำอะไรได้ดี

          สิ่งที่เราทำแล้วชอบหรือสิ่งที่เราถนัด มักจะเป็นตัวที่บ่งบอกได้อย่างชัดเจนว่าเราเหมาะที่จะทำงานอะไรมากที่สุด แต่ก็ต้องคอยดูให้ดีๆ ด้วย เพราะบางครั้งสิ่งที่เราทำแล้วรู้สึกว่าถนัด เราอาจจะไม่ได้ชอบทำมันเสียทีเดียว แต่เราอาจจะทำมันได้ดีเพราะเกิดจากความชำนาญและการฝึกฝนมาก็เป็นได้ ดังนั้นถ้าหากจะให้ดี เราควรค้นหาว่าอะไรที่เราทั้งทำได้ดี ทำแล้วสนุก และชอบที่จะทำอยู่เรื่อยๆ  ซึ่งมันอาจเป็นการยากที่จะสังเกตตัวเองถึงขนาดนั้น แต่เชื่อเถอะว่ามันไม่ยากเกินความสามารถของเราเองแน่นอน

2.คิดให้ดีๆว่าเราอยากที่จะใช้ชีวิตแบบไหน

          เราอาจมองคนรอบๆ ตัว และเปรียบเทียบชีวิตของเรากับคนอื่นดูก็ได้ อย่างเช่น เราอาจมองเพื่อนร่วมงานของเราว่าปัจจุบันเขาทำงานนี้แล้วเขาพอใจหรือเปล่า เขาทำงานนี้แล้วชีวิตของเขาเป็นอย่างไร และเราอยากที่จะเป็นเหมือนกับเขาหรือเปล่า ถ้าหากเราดูแล้วรู้สึกว่าเราพอใจที่จะเป็นแบบนั้น ก็แปลว่างานนี้เหมาะสมกับเราอยู่แล้ว แต่ถ้าหากรู้สึกว่าเราไม่อยากที่จะมีชีวิตแบบเพื่อนร่วมงานของเรา ก็เป็นสัญญาณเตือนที่ดีว่าเราควรจะออกจากจุดๆ นี้แล้วไปยังจุดอื่นเสีย จากนั้นก็คอยสังเกตต่อว่าเราอยากที่จะมีชีวิตแบบไหน ซึ่งจะส่งผลให้เราสามารถหางานที่เหมาะกับตัวเองได้ในเวลาต่อมา

3.อย่าถือเอาคำแนะนำของคนอื่นมาทำให้ตัวเองสับสน

          จริงอยู่ที่การทำตามคำแนะนำของคนอื่นไม่ใช่เรื่องแย่เสมอไป แต่เราควรที่จะให้ความสำคัญกับเสียงของหัวใจตัวเองเป็นอันดับแรก เนื่องจากบางครั้งคนอื่นเขาไม่ได้อยู่ในจุดเดียวกับเรา เขาจึงไม่สามารถเข้าใจสถานการณ์ของเราได้อย่างเต็มร้อย แต่ตัวเราเองจะเป็นคนที่เข้าใจตัวเองที่สุดเสมอ ดังนั้น เราไม่ควรทำตามคำแนะนำของคนอื่นมากจนเกินความจำเป็น แต่ควรที่จะฟังเสียงของตัวเองให้มากที่สุดต่างหาก  

          การค้นหาตัวเองอาจฟังดูเป็นเรื่องที่เคว้งคว้างและยากลำบาก เนื่องจากเราต้องพึ่งพาตัวเองเยอะมากและคนอื่นอาจไม่สามารถช่วยให้เราบรรลุเป้าหมายได้อย่างเต็มที่ แต่เชื่อเถอะว่าถ้าหากเราสอบผ่านในด้านการเข้าใจตัวเองแล้วล่ะก็ ไม่ว่าจะการหางานหรือการทำอะไรสักอย่างก็จะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป